Pip points เป็นสิ่งที่เราได้ยินกันบ่อยมากที่สุดในการ เทรดฟอเร็กซ์ หรือ ที่เราเรียกกว่าค่า Pips นั่นเอง หลาย ๆ คนก็คงสงสัยกันว่า เจ้า pip กับ points คืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกันให้มากขึ้นเอง
ทำความรู้จักกับ Pip points ก่อนเริ่มเทรด Forex
Pip points ทั้งสองอย่างนี้ มีความเหมือน และความต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะฉะนั้นเราจะแยกออกมาเป็น 2 รูปแบบ เพื่อที่จะได้ทำการอธิบายกันแบบ ง่าย ๆ ถ้าหากว่าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
- Pip คือ การนับค่าจุดทศนิยมตัวสุดท้ายหรือทศนิยมตำแหน่งที่ 2 หรือ 4 และไล่ขึ้นมา เช่น สมมุติว่าราคาของคู่เงิน EUR/USD คือ 3453 และราคาเปลี่ยนไปที่ 2.3454 อย่างนี้เราเรียกว่า ราคาเคลื่อนไหวไป 1 pip เป็นต้น
- Points คือ จุด หรือ จุดทศนิยมนั่นแหละ เราจะใช้นับการเคลื่อนไหวของจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 3 หรือ 5 ไล่ขึ้นมา เช่น EUR/USD หรือ EUR/AUD โดยมากราคาที่ 2.34340 เปลี่ยนเป็น 2.34349 ถือว่าลักษณะแบบนี้ราคาขยับไปจำนวน 9 Point เป็นต้น
ถ้าพูดกันง่าย ๆ ก็คือว่า ทั้งสองตัววนี้ คือ ค่าทศนิยมความเหลื่อนไหว ในการเทรด โดยจะมีความต่างกันนเรื่องของตำแหน่งของทศนิยมเท่านั้น
ประโยชน์ที่เทรดเดอร์จะได้รับ ถ้าหากว่านับ Pip และ Points เป็น
เมื่อเทรดเดอร์ได้ทำการเทรด ทั้ง Pip และ Point นั้น จะถูกนำมาอธิบายในความหมายของราคาเงินคู่กันเสียมากกว่า โดยที่ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรเยอะแยะมากมายเท่าไหร่ แต่จะต้องทำการศึกษาให้แน่นอนก่อนเข้าเทรด ซึ่งเราก็สามารถคำนวนทั้งสองค่านี้ได้แบบสมการดังนี้
Pip Value = (One Pip / Exchange Rate) * Lot Size
- One pip คือ การเปลี่ยนแปลงราคาที่น้อยที่สุด
- Exchange rate คือ ราคาปัจจุบันของคู่สกุลเงิน
- Lot size คือ ขนาดของการซื้อขาย โดยจะมีการ วัดเป็นล็อต โดย 1 ล็อตมาตรฐานเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก
Pip points องค์ประกอบสำคัญของการเทรด Forex รู้เยอะ ก็มีโอกาสได้กำไรสูง
Pip points ทั้งสองแบบนี้มีความเหมือน และต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ถือว่าเป็นตัวที่มีความสำคัญในการเทรดมากเลยทีเดียว เพราะถ้าหากว่าคุณเข้าใจในเรื่องของค่า pip มากขึ้นนั้น คุณก็จะได้ราคาที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย และถ้าจะเปรียบเทียบราคากันก็ถือว่าเป็นเรื่องง่ายไปเลยทีเดียว โอกาสได้กำไรก็จะสูงขึ้นด้วย
เพราะฉะนั้น ใครที่อยากจะเทรดฟอเร็กซ์ให้ได้กำไรแบบจริงจัง ค่า Pip และ Point ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดมาก ๆ เลยทีเดียว ควรอ่านค่าให้เป็น และวิเคราะห์ให้ได้
เนื้อหาถัดไป : Risk On-Risk Off คืออะไร